The smart Trick of หนังสือมือสอง That No One is Discussing

The smart Trick of หนังสือมือสอง That No One is Discussing

Blog Article

การตลาดร้านหนังสือออนไลน์ของคุณมีความสำคัญ ลูกค้าจะรู้จักคุณอย่างไร

คุณต้องมีชื่อหนังสือและคำบรรยายที่สะดุดตาและน่าสนใจ ดูหนังสือที่ประสบความสำเร็จในประเภทที่คุณกำลังแข่งขันสิ่งที่ทำให้พวกเขาจับใจ? คุณเป็นผู้เขียนที่ไม่รู้จักดังนั้นคุณไม่สามารถพึ่งพาผู้อ่านที่ไปตามชื่อของคุณ ดังนั้นให้ใช้เวลาสักครู่ในการกำหนดหัวเรื่องสั้น ๆ และน่าดึงดูดสำหรับหนังสือของคุณ พร้อมกับหน้าปกจะช่วยให้ยอดขายที่สำคัญทั้งหมด อาจระดมความคิดบางอย่างกับเพื่อน / ผู้อ่านที่เชื่อถือได้? หลังจากทั้งหมดสองหัวดีกว่าหนึ่ง!

อีกทั้งยังเปรียบเสมือนจุดผ่อนคลายสำหรับหนอนหนังสือตัวยง เพราะคาเฟ่แห่งนี้ยังเป็น ‘ร้านหนังสือมือสอง’ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและเอกสารหายากมากมาย ทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ ตั้งแต่หนังสือนิทานสำหรับเด็ก หนังสือการ์ตูน หนังสือภาพ แบบเรียน วรรณกรรม จนถึงเอกสารทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญระดับประเทศ

มีขั้นต่ำว่าต้องขายกี่เล่มขึ้นไปหรือไม่ ?

ไม่ว่าจะเป็นป้ายปราศรัยครั้งใหญ่ของพรรคกิจสังคมภายใต้ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช, สมุดแถลงนโยบายของจอมพล ป.

เวลาที่เราซื้อหนังสือมาอ่าน เมื่ออ่านจบแล้ว เราเอาหนังสือไปไว้ที่ไหนกัน? สำหรับคนที่เป็นหนอนหนังสือ หรือคนที่รักการอ่าน ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เชื่อว่าคงเก็บทะนุถนอมหนังสือไว้ในตู้ หรือเก็บไว้บนชั้นหนังสืออย่างดี แต่ถ้ามันดันมีหนังสือบางเล่มที่เราไม่ได้อ่านแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ซื้อมาผิด ไม่ใช่แนวที่ชอบ เปิดอ่านไม่กี่หน้าก็จอด แถมในอนาคตก็จะต้องมีเล่มใหม่เพิ่มมาเรื่อยๆ บรรดาหนังสือเก่าๆ ที่ไม่ได้อ่านแล้ว ถ้าจะเก็บเอาไว้ก็กินพื้นที่ แต่จะทิ้งก็ทิ้งไม่ลงแน่ๆ

• ภาคที่ หนังสือมือสองออนไลน์ ๗ นานาพยากรณ์ และการให้ฤกษ์

อนุญาตให้เผยแพร่ข้อความภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แบบแสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน; อาจมีเงื่อนไขอื่นเพิ่ม

• หลักพยากรณ์ที่ ๒๗ มหากาลจักรลัคน์จร

• ภาคที่ ๗ นานาพยากรณ์ และการให้ฤกษ์

• พระพุทธเจ้าแสวงหาทางพ้นวัฏฏทุกข์ได้อย่างไร

• ภาคที่ ๑๔ ตำราบูชาเทวดานพเคราะห์ ตำนานพระปริตรและพระปริตร

เทคนิคข้อแรกขั้นเบสิคสุดของการขายหนังสือมือสอง ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าหนังสือที่เราต้องการขายเป็นหนังสือประเภทไหน จัดอยู่ในหมวดหมู่อะไร หลักๆ เลยก็จะมีหนังสือนิยาย หนังสือทั่วไป หนังสือเรียน เป็นต้น จากนั้นก็สามารถแยกย่อยลงไปได้อีกแล้วแต่ประเภท ทั้งนี้ก็เพื่อจะนำไปสู่การประเมินในขั้นอื่นๆ ซึ่งสูงขึ้นไปอีก เช่น กลุ่มลูกค้า ปริมาณความต้องการ ราคาขาย และอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่ต้องรู้ก่อนว่าหนังสือเล่มนั้นจัดอยู่ในหมวดหมู่ไหน

นอกจากจะประเมินหมวดหมู่ของหนังสือแล้วยังอาจต้องมีส่วนเสริมกันบ้างว่าหนังสือเล่มนั้นๆ มีเนื้อหาไปในแนวทางไหน เช่น นวนิยาย ก็จะแบ่งออกเป็น รักโรแมนติก สืบสวนสอบสวน สยองขวัญ เป็นต้น หรือถ้าเป็นหนังสือเรียนเตรียมสอบ ก็อาจมีวิชาที่แตกต่าง และสามารถขายได้กับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างด้วย เช่น กลุ่มลูกค้าที่เรียนสายวิทย์ และกลุ่มลูกค้าที่เรียนสายศิลป์ เป็นต้น